นานาสาระ  >> Entertainment

ความในใจจาก 'หน้ากากมังกร' บุ๋ม ปนัดดา

20 มีนาคม 2560

|

เปิดอ่าน 1454

ต้องยอมรับว่าตั้งแต่เข้าวงการมา 17 ปี ไปเกมโชว์มาแทบจะทุกรายการ ไม่เคยเจอรายการไหนที่มีผลกระทบต่อชีวิตขนาดนี้มาก่อน ตั้งแต่การถูกเซ็นสัญญาว่าห้ามเปิดเผยข้อมูลซึ่งไม่ใช่แค่ตัวเราต้องรวมถึงผู้ติดตามด้วย ซึ่งถ้าความลับถูกเปิดเผยว่าใครชนะหรือใครแพ้ ใครคือคนเข้ารอบต่อไป เกมรายการก็คงไม่สนุก แต่การถ่ายทำนั้นก็ไม่ได้ใช้ทุกวันอาจจะมีสัปดาห์ละวันถึงสองวัน เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ใครหลายๆ คนจะหายตัวเป็นเดือนๆ ส่วนรายการร้องเพลงที่บุคคลสนใจกันมากในตอนนี้ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งปีในการถ่ายทำ

ขอบอกเลยว่าชีวิตบุ๋มเปลี่ยนมาก เพราะงานประจำที่ทำก็ยังมีแน่นอยู่ แต่พอต้องถ่ายทำและเข้ารอบต่อไป เลยทำให้ชีวิตเหมือนทำงาน 24 ชั่วโมง งานเก่าที่ทำอยู่ก็ขาดไม่ได้ ลาไม่ได้ เพราะคิวงานวางไว้แล้ว ส่วนรายการก็ต้องถ่ายเพราะเราอยากทำ มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่และมีความสุขที่ได้ทำ

แต่ที่มีความสุขแบบอึดอัดก็คงเป็นเรื่องที่คนรอบข้างคอยแต่ถามว่าเราใช่หน้ากากมังกรหรือเปล่า ไอ้เราก็ตอบไม่ได้ ทั้งๆ ที่ใจอยากตะโกนออกไปว่าหนูเอง!!! แต่ก็พูดไม่ได้ไง ก็ได้แต่ตอบไปว่า ไม่ใช่ค่ะ! งานบุ๋มยุ่งจะตายไม่มีเวลาไปหรอก ซึ่งบางคนก็เหมือนจะเชื่อและบางคนก็บอกว่าไม่เชื่อหรอก ฮ่าๆ ส่วนเรื่องที่อึดอัดอีกเรื่องก็คงเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ในรายการ มันอลังการมากและหนักมากด้วย ต้องขอชื่นชมทีมงานที่ลงทุนในเรื่องนี้ เพราะมันทำให้เห็นภาพที่แตกต่างระหว่างรายการที่ไทยผลิตกับเกาหลีผลิต คนละเรื่อง!

ส่วนเรื่องการซ้อมร้องเพลงที่ไปใช้แข่ง ไม่ใช่ว่าเราอยากร้องเพลงอะไรก็จะได้ร้องนะคะ มันต้องดูด้วยว่าร้องไปแล้วคนจะจับได้ว่าเป็นเราไหม? เพลงติดลิขสิทธิ์ด้วยหรือเปล่า? หน้ากากอื่นเอาเพลงไปร้องแล้วหรือยังเพราะเพลงห้ามซ้ำกัน หลายคนถามว่าทำไมมังกรไม่ร้องเพลงไทย? แหม! ร้องเพลงไทยก็จับได้สิว่าเป็นบุ๋ม ก็เสียงบุ๋มเล่นพูดในรายการต่างๆ ทุกวัน รวมทั้งหลอกหลอนตามโฆษณามากมาย แค่สวัสดีก็จำได้แล้วค่ะ! นี่ขนาดร้องเพลงภาษาอังกฤษนะ รอบที่สามก็จับได้หมดแล้ว ขืนร้องเพลงไทยคงจำได้ตั้งแต่รอบแรก

แล้วอย่างที่รู้โดยทั่วกันว่าบุ๋มไม่ใช่นักร้อง ต่อให้ชอบการร้องเพลงมากแค่ไหนก็ตาม แต่คนเราที่มันไม่ได้เรียนหรือฝึกมาโดยตรงมันไม่เก่งเท่ากับคนที่ร้องเพลงทุกๆ วันหรอกค่ะ ซึ่งตัวบุ๋มเองก็ต้องมาหัดร้องในห้องน้ำ ยืนร้องหน้ากระจกจนเท้าเปื่อย เพียงเพราะคิดอย่างเดียวว่าฉันจะทำมันให้ดีที่สุด ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นแบบไหนก็ตาม

เพราะการร้องเพลงคือความฝันของบุ๋มค่ะ ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆแต่ไม่มีความกล้าที่จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าฉันอยากเป็นนักร้อง และอาจจะเป็นเพราะเราเรียนได้ดี คุณพ่อคุณแม่เลยตั้งความหวังไว้ที่จุดอื่นมากกว่าแค่ร้องเพลง ซึ่งสมัยนั้นการเป็นนักร้องไม่ใช่เรื่องง่าย แต่บุ๋มก็ยังโชคดีที่ได้มีโอกาสไปแคสเสียงตอนอายุ 17 ตอนนั้นไปตัดผมทำสีผมเพื่อถ่ายปกเรียบร้อยแล้ว เพลงรอแค่เดินเข้าไปอัด แต่ความฝันก็สลายเมื่อคุณพ่อบอกว่าต้องเรียนให้จบปริญญาตรีก่อนถึงจะทำอะไรแบบนี้ได้ ส่วนการจะได้มีเพลงอีกครั้งในชีวิตก็ตอนที่กลับมาจากออสเตรเลียใหม่ๆ ก็ได้ไปแคสเสียงแนวเพลงลูกกรุง และมีซิงเกิลชื่อ รักไร้บำเรอ ลงเสียงไปเป็นที่เรียบร้อย เพื่อที่จะให้โปรดิวเซอร์ไปเสนอค่าย ผลปรากฏว่าประกวดนางสาวไทยซะก่อน ตามความฝันของคุณแม่ที่ฟูมฟักเรามาตั้งแต่เด็กๆ เลยทำให้เพลงรักไร้บำเรอไปได้ผู้หญิงเสียงสวยของเมืองไทย คุณอรวี สัจจานนท์ เป็นผู้ร้อง โดยที่เสียงไกด์ที่คุณอรวีฟัง เป็นเสียงของบุ๋มเองค่ะ

หลังจากนั้นภาระหน้าที่ในชีวิตก็พาบุ๋มเดินตามเส้นทางที่ถูกกำหนด บุ๋มได้มาเป็นนางสาวไทย ดารานักแสดงพิธีกรและอื่นๆ อีกมากมายในชีวิต ทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิตอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ฝัน แต่ในเมื่อมันมาเผชิญหน้าแล้วบุ๋มก็ยินดีที่จะลองทำมัน เราจะได้บอกคนอื่นได้เต็มปากว่า เราทำได้หรือไม่ได้เพราะอะไร ดีกว่าบอกชาวบ้านว่าทำไม่ได้เพียงเพราะไม่กล้าทำ ซึ่งตลอดระยะเวลา 17 ปีที่อยู่ในวงการ บุ๋มเองก็ได้มีโอกาสร้องเพลงนะคะแต่ไม่ได้เป็นภาพของนักร้องอย่างที่ฝัน แต่เป็นภาพของปนัดดา วงศ์ผู้ดี นางงามที่ร้องเพลงได้ดี แต่เป็นพิธีกรดีกว่า! ดังนั้นทุกครั้งที่ไปงานคอนเสิร์ต ไม่ว่าจะได้ตังค์หรือการกุศล บุ๋มมักจะโดนยื่นไมค์และ script ใส่มือบุ๋มเสมอ ดังนั้นเมื่อถึงหน้างาน บุ๋มก็ทำหน้าที่พิธีกรให้ดีที่สุด ไม่ใช่สิ่งที่ฝันแต่อย่างน้อยเราควรทำทุกอย่างให้ดีที่สุดอย่างมีความสุข

ดังนั้น ต่อให้ทำอาชีพอะไรก็ตาม หรือแม้กระทั่งอยู่บ้านบุ๋มก็ร้องเพลงได้ แถมผมยังแอบไปเรียนร้องเพลงในยามที่บุ๋มว่างอีกด้วย ซึ่งก็มีไปเรียนบ้างแต่ไม่จริงจัง ดังนั้นเมื่อรายการนี้ติดต่อมา บุ๋มตอบรับทันที ขอแค่ได้ร้องเพลง จะเข้ารอบหรือไม่ก็ช่าง


บุ๋มมีความสุขกับทุกสิ่งที่ทำค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องเรียนตามความฝันของพ่อคือการเรียนจบดอกเตอร์ หรือการเป็นนางสาวไทยตามความฝันของแม่ บุ๋มไม่ได้ทุกข์ใจอะไรเลยกับการที่ไม่สามารถเป็นนักร้องได้อย่างที่ตัวเองฝัน เพราะบุ๋มรักการร้องเพลง

ที่มาภาพ - The Mask Singer

IG: boompanadda

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/884126

Share |