นานาสาระ  >> Technology

จะซื้อดีไหม ชวนมาเช็กก่อนตัดสินใจ โนเกีย 3310 คุ้มให้เสียเงิน?

20 มีนาคม 2560

|

เปิดอ่าน 1324

















วิเคราะห์โฉมใหม่ "Nokia 3310" ที่ถูกร่ายมนตร์ให้คืนชีพอีกครั้ง และกลับมาโลดแล่นในบทบาทสมาร์ทโฟน…


กลายเป็นข่าวครึกโครมเขย่าแวดวงมือถือ เมื่อ "โนเกีย" (Nokia) อดีตยักษ์ใหญ่วงการมือถือประกาศกลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้ง พร้อมกับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนออกมาเรียกน้ำย่อยไปเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ แต่ล่าสุด ทำเอาเวที MWC 2017 (Mobile World Congress) สะเทือน เพราะโนเกียหยิบเอามือถือซุปเปอร์คลาสิกอย่างรุ่น "3310" มาปัดฝุ่น ชุบชีวิตในปี 2017 อีกครั้ง

เชื่อว่าหลายๆ คนอาจได้เห็นสเปกและดีไซน์ของ 3310 ยุคดิจิตอลบ้างแล้ว เอาเป็นว่าหากคุณยังลังเลกับโฉมใหม่ของโนเกีย 3310 เราจะพาไปหาคำตอบเอง ว่าคุ้มค่า น่าซื้อใช้ หรือสมควรเก็บสะสมแค่ไหน? กับรายละเอียดแบบสรุปมาแล้ว อ่านง่ายเข้าใจสะดวก 5 ข้อ เผื่อประกอบการตัดสินใจ!


1. ถ้าคุณชอบดีไซน์เดิมอันเป็นเอกลักษณ์ของ 3310 บอกเลยว่าโฉมใหม่นี้จะทำให้คุณหายคิดถึงมือถือสุดฮอตเมื่อซัก 14-15 ปีก่อนอย่างแน่นอน เพราะโฉมใหม่ในยุคนี้ก็ทรงเดิมนั่นแหละ แต่มีการปรับปุ่มกด ขยายหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับตัวเครื่องบางและเบาลง

2. กล้องถ่ายภาพก็มานะจ๊ะ รุ่นนี้มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล หน้าจอแบบ QVGA ขนาด 2.4 นิ้ว แถมระยะเวลาใช้งานก็นานขึ้นด้วย โดยสามารถสนทนาต่อเนื่องได้ถึง 22 ชั่วโมง (นานกว่ารุ่นดั้งเดิมถึง 10 เท่า) หรืออยู่ในโหมดสแตนด์บายได้นานถึง 31 วัน เรียกว่าประหยัดพลังงานในการชาร์จแบตเตอรี่ลงถึง 3 เท่า

3. ไม่ต้องห่วงว่าความบันเทิงจะหายไป เพราะโฉมนี้สามารถใช้ฟังเพลง Mp3 ได้นานถึง 51 ชั่วโมง หรือจะฟังวิทยุ FM ก็ได้ถึง 39 ชั่วโมงเชียวล่ะ และแน่นอนว่าเกมงูที่เปรียบเสมือนตัวตายตัวแทนของโนเกีย 3310 ก็มี! แต่แอบกระซิบไว้ก่อนว่าเป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่แล้วนะจ๊ะไม่ใช่ยกเกมรุ่นเดิมมาใส่


4. บอกไว้ก่อนเลย เผื่อใครคิดจะซื้อ 3310 โฉมใหม่มาใช้ต่อเน็ต ต่อไวไฟ เล่นแชต เล่นโซเชียล เราขอให้คุณเบรกความคิดทั้งหลายเอาไว้เดี๋ยวนี้...เพราะโฉมใหม่นี้ใช้ได้เพียงเครือข่าย 2.5จีนะ ลองคิดดูให้ดี บ้านเรากำลังเข้าสู่เครือข่าย 3จี 4จี ไปแล้ว ถ้าตั้งใจจะซื้อมาใส่ซิมการ์ดใหม่ละก็ หมดสิทธิ์! แถมไม่รองรับไวไฟอีกต่างหาก แต่ยังมีบลูทูธไว้ให้ใช้งาน

5. เรื่องสีสันมาเต็มนะจ๊ะ โนเกีย 3310 มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีแดงมันวาว (Warm Red) สีเหลืองมันวาว (Yellow) สีน้ำเงินเข้มด้าน (Dark Blue) และสีเทาด้าน (Grey)

ส่วนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 49 ยูโร (หรือประมาณ 1,800 บาท) แต่บอกเลยว่ายังไม่มีรายละเอียดสำหรับวางจำหน่ายในประเทศไทย ยังไงก็คงรออัพเดตกันอีกครั้ง.

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/869162

Share |